ประวัติของ G-Shock
บางครั้งจุดเริ่มต้นของบางสิ่งบางอย่างอาจจะเริ่มต้นขึ้นได้ด้วยความประหลาดใจ เช่นดังตัวอย่างของ บริษัทนาฬิกา Casio เป็นต้น ถ้าให้คุณเดาว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกของ Casio คืออะไร คุณอาจจะคิดว่าเป็นเครื่องคิดเลขหรือไม่ก็ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอิเลคทรอนิคส์ทั่วๆ ไป คุณคิดผิด!!! บริษัท Casio ก่อตั้งขึ้นโดย มิสเตอร์ Tadao Kashio ในปี ค.ศ. 1946 ซึ่งเข้าใจได้ว่าก่อตั้งขึ้นนั้นภายหลังประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศเข้าร่วม สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่ง ณ. ตอนนั้นสถานการณ์ทางการเงินในประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างย่ำแย่มาก เมื่อมิสเตอร์ Kashio เริ่มงานในบริษัทของเขา เขาเป็นเพียงวิศวกรประกอบซึ่งคาดหวังว่าอยากหาเวลาพักผ่อนยาวๆ สำหรับตัวเขาเอง
แต่การหาเวลาพักผ่อนสำหรับ เขานั้นไม่มีใครเหมือน เพราะ มิสเตอร์ Tadao Kashio ได้ใช้เวลาว่างในการพักผ่อนทำการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเขาเองขึ้นมา ชิ้นแรกเรียกว่า Yubiwa Pipe โดยมันถูกออกแบบมาเพื่อใช้เตือนเวลาบนนิ้วมือคน โดยมันถูกใช้เพื่อคอยคีบบุหรี่ เพื่อให้ผู้สูบบุหรี่สามารถสูบบุหรี่จนถึงก้นกรองได้โดยไม่ต้องใช้มือคอยจับ บุหรี่อันเนื่องมาจากความร้อน ซึ่งทำให้คนงานสามารถที่จะสูบบุหรี่ได้โดยมือทั้งสองข้างยังคงทำงานได้อย่าง ต่อเนื่อง ไม่ต้องคอยมาจับบุหรี่ซึ่งถือว่าเป็นการลดเวลาที่เสียไปโดยเปล่าประโยชน์มาก
คงจะเห็นได้แล้วว่า Mr. Kashio เป็นนักประดิษฐ์ผู้สร้างสรรค์ เขาจึงมักจะค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ให้กับผลิตภัณฑ์ของเขาเสมอ และแล้วที่งานแสดงสินค้าที่ เมือง Ginza ประเทศญี่ปุ่นในปี 1949 เขาก็คิดค้นเครื่องคิดเลขซึ่งมียอดขายตาม yubiwa pipe มาติดๆ ตัวเขาและพี่น้องต่างก็พากันทดลองเพื่อสร้างสรรค์เครื่องคิดเลขของพวกเขาเอง ขึ้นมา และอีกไม่นานนัก Casio ก็เปิดตัวเครื่องคิดเลขสายพันธุ์ใหม่ในปี 1954 ซึ่งเป็นเครื่องคิดเลขแบบแรกที่ใช้ ขดลวดsolenoids และยังมีแป้นพิมพ์ของตัวเลข 10 หลัก และมีหน้าจอเดียวเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งที่มีถึงสามหน้าจอ และในปี 1957 Casio ก็ได้เปิดตัวเครื่องคิดเลขรุ่น Model 14-A ซึ่งเป็นเครื่องคิดเลขอิเลคโทรนิคสมบูรณ์แบบเครื่องแรกที่ใช้เทคโนโนยี relay และในปีเดียวกันนั้นเองยังเป็นปีที่บริษัท Casio Computer ได้รับการก่อตั้งขึ้น
บริษัทฯ เปิดตัวนาฬิกาข้อมือรุ่นแรกในตลาดเดือนพฤศจิกายนปี 1974 ในขณะที่ตลาดเองในขณะนั้นเพิ่งจะค้นพบเทคโนโลยีดิจิตอลขึ้นซึ่งทางบริษัทเอง เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถพัฒนานาฬิกาที่จะเป็นผู้นำตลาดได้
นาฬิกาที่เป็นที่จดจำได้ มากที่สุดคงหนีไม่พ้นนาฬิกาเครื่องคิดเลขที่ทางบริษัทผลิตขึ้น ซึ่งเป็นนาฬิกาข้อมือที่มีทั้งการทำงานแบบนาฬิกาที่มาพร้อมกับแป้นพิมพ์ตัว เลขขนาดจิ๋วละม้ายคล้ายคลึงเครื่องคิดเลข ซึ่งเหมาะกับความต้องการอย่างมาก สำหรับอาจารย์ที่สอนคณิตศาสตร์ โดยที่จะสามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ทุกทีโดยไม่ต้องพกพาและสามารถที่จะช่วย เหลือนักเรียนที่ไม่ค่อยคล่องกับด้านตัวเลขอีกด้วย
นอกจากนาฬิกา เครื่องคิดเลขแล้วคาสิโอยังพัฒนานาฬิกาข้อมือไปอีกระดับด้วยการสร้างสรรค์ นาฬิกาข้อมือที่สามารถให้ข้อมูลที่น่าสนใจหลายประการให้กับผู้เป็นเจ้าของ เช่น บอกเวลาที่แตกต่างกันของแต่ละ time zone บอกสภาพอากาศ อุณหภูมิ และความดัน นักปีนเขาก็มักจะชอบรุ่นที่สามารถบอกระดับความสูงได้ ในขณะที่ผู้ผลิตนาฬิการายอื่นยังคงนำเสนอรายละเอียดของนาฬิกาข้อมือในแบบ เดิมๆ คาสิโอก็ยังคงนำเสนอรูปแบบของนาฬิกาที่หลากหลายพร้อมการใช้งานที่น่าสนใจใน รูปแบบนาฬิกาข้อมือแบบดั้งเดิม
นาฬิกา G-shock เป็นนาฬิกาที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่วัยรุ่น ด้วยสีสันที่สวยสด งดงาม และเตะตา ไม่แปลกใจเลยถ้าวัยรุ่นจะไม่ใส่กัน แต่ในความสวยงามนั้น ก็มีเทคโนโลยีดีดีที่ทาง Casio บรรจงใส่ลงไปในนาฬิกา G-shock ทุกเรือน
G-shock เกิดขึ้นจากความฝันของวิศวกรหนุ่มคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ในบริษัท Casio ที่ญี่ปุ่น Kikuo Ibe เขาเป็นผู้คิดค้นขึ้นมา ในปี ค.ศ. 1981, Kikuo Ibe และทีมสร้างของเขาได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า นาฬิกา G-shock ต้องมีคุณสมบัติ “Triple 10” คือ รองรับการกันกระแทกจากที่สูงได้ถึง 10เมตร, กันน้ำในความดัน 10Bar หรือ ที่ความลึก 100 เมตร และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 10ปี แต่ความคิดนี้ก็ไม่เป็นที่สำเร็จ แต่เขาก็ไม่ท้อ เขาได้ทดลองทำนาฬิกาต้นแบบมามากกว่า 200 แบบ จนได้แนวคิดใหม่เป็นนาฬิกาที่มีส่วนประกอบเป็นชิ้นส่วนที่กันกระแทกอย่างดี G-shock ตัวแรกคือ DW-5000 เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1983 และอีกประมาณ 2 ปี ก็ได้เริ่มผลิตอย่างเป็นทางการ วัสดุใน G-shock เป็นวัสดุที่ได้ทำการทดลองมาหลายครั้งจนได้วัสดุที่ดีเยี่ยม ทำให้ G-shock เป็นนาฬิกาที่มีความทนทานสูง
จนถึงวันนี้ นาฬิกา G-shock ก็ได้โลดแล่นอยู่บนข้อมือมานาน 30ปีแล้ว ในปี ค.ศ.2013 นาฬิกา G-shock ก็ได้มีอายุ 30ปีพอดี ในปีนี้ก็คงจะมีนาฬิการุ่นพิเศษจาก G-shock ออกมากันมากมาย มารีดทรัพย์ในกระเป๋าตังค์วัยรุ่นอย่างเราๆได้กันมากมาย
โครงสร้างตัวเรือนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะนี้เปิดโอกาสให้เราสร้างสรรค์นาฬิกา G-SHOCK เรือนแรก ความลับในการทำงานของโครงสร้างรุ่นนี้คือการกระจายแรงกระแทกด้านนอกโดยการทำให้โมดูลด้านใน "ลอย" ไปตามตัวเรือนพร้อมกับมีจุดช่วยรองรับเพียงแค่ไม่กี่จุดเท่านั้น ในเวลาต่อมาเราก็ประสบสำเร็จในการเพิ่มคุณสมบัติการต้านแรงกระแทกไปที่ตัวโมดูลเองผ่านทางนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่
กะเปาะโค้งมนช่วยรับรองว่าปุ่มต่างๆจะไม่สัมผัสกับพื้นราบหากตกพื้น
กรอบที่ปกคลุมรอบช่วยป้องกันไม่ให้ปุ่มต่างๆที่เชื่อมต่อกับโมดูลได้รับการกระแทกและกรอบที่ว่านี้จะอยู่ในสภาวะ "พร้อมรับมือ" เสมอเพื่อป้องกันปุ่มจากการโดนกระแทก
กรอบที่ปกคลุมรอบช่วยป้องกันไม่ให้ปุ่มต่างๆที่เชื่อมต่อกับโมดูลได้รับการกระแทกและกรอบที่ว่านี้จะอยู่ในสภาวะ "พร้อมรับมือ" เสมอเพื่อป้องกันปุ่มจากการโดนกระแทก
G-SHOCK สามารถทนทานต่อแรงโน้มถ่วงได้เกินกว่าระดับ 15G ซึ่งเป็นระดับพื้นฐานที่เครื่องบันทึกข้อมูลการบินและบันทึกเสียงในห้องนักบินต้องรับได้ตามมาตรฐานการทดสอบอัตราเร่งต่อเนื่องของอุปกรณ์การบิน (มาตรฐาน ISO2669) จากการทดสอบสามารถยืนยันได้ว่าฟังก์ชันการทำงานต่างๆรวมถึงฟังก์ชันการจับเวลาที่มีความถูกต้องถึง 1/100 วินาทีสามารถทำงานได้ตามปกติในสภาวะที่อยู่ในเครื่องบินที่มีความเร็วสูงหรือสถานการณ์ที่มีแรงเหวี่ยงตามแรงโน้มถ่วงสูง
เนื่องจาก G-SHOCK สามารถทำงานได้ตามปกติที่อุณหภูมิติดลบมากๆ ผู้สวมใส่จึงมั่นใจได้ว่านาฬิกาจะยังสามารถทำงานได้แม้อยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็นมากหรืออยู่บนเขาสูง
การทนทานต่อแรงสั่นรุนแรงที่มีประสิทธิภาพเสมอทำให้ G-SHOCK เป็นนาฬิกาที่เหมาะต่อสภาวะที่สั่นสะเทือนสูง เช่น การขับรถบนถนนขรุขระที่ต้องใช้ความเร็วสูงเป็นต้น
เพื่อลองประเมินแรงกระแทกรูปแบบต่างๆที่อาจเกิดกับนาฬิการะหว่างที่มีการใช้งาน เราจึงได้ทดสอบปล่อยนาฬิกาตกพื้นที่จะทำให้เกิดสภาวะการกระแทกที่แตกต่างกันในแต่ละครั้ง จุดประสงค์ในการทดสอบนี้ก็เพื่อยืนยันว่านาฬิกาจะยังทำงานได้ตามปกติแม้ว่าจะเกิดการกระแทกที่ไม่สามารถคาดเดาได้
G-SHOCK สามารถทนทานต่อแรงกระแสไฟฟ้าที่อาจรบกวนการทำงานของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ในเครื่องได้ทำให้มั่นใจได้ว่านาฬิกาจะทำงานได้ตามปกติในสภาวะที่อาจมีไฟฟ้าสถิตได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น